ให้นักศึกษาไปศึกษาผู้นำทางวิชาการจากเอกสาร, Internet, การสัมภาษณ์ ในประเด็นดังนี้
1. ประวัติของผู้นำทางวิชาการที่สำคัญ
2. ผลงานของนักวิชาการที่ปรากฏ
3. เราชอบผู้นำทางวิชาการในประเด็นอะไร
4. มีรูปถ่ายสถานที่ประกอบ
1. ประวัติของผู้นำทางวิชาการที่สำคัญ
2. ผลงานของนักวิชาการที่ปรากฏ
3. เราชอบผู้นำทางวิชาการในประเด็นอะไร
4. มีรูปถ่ายสถานที่ประกอบ
ประวัติของผู้นำทางวิชาการที่สำคัญ
ชื่อ : นฤทธิ์ คำธิศรี
วัน/เดือน/ปีเกิด: 1 มกราคม 2506
ที่อยู่: 85 ม.9 ต.โพธิไพศาล อำเภอกุสุมาลย์ จังหวัดสกลนคร
ชื่อ : นฤทธิ์ คำธิศรี
วัน/เดือน/ปีเกิด: 1 มกราคม 2506
ที่อยู่: 85 ม.9 ต.โพธิไพศาล อำเภอกุสุมาลย์ จังหวัดสกลนคร
คู่สมรส : นางตุ้มคำ พยาบาลวิชาชีพ 7 หัวหน้าสถานีอนามัยโพธิไพศาล อำเภอกุสุมาลย์ มีบุตร 2 คน
การศึกษา: ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงจากวิทยาลัยเกษตรสุรินทร์ และปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ สาขาประมง
การศึกษา: ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงจากวิทยาลัยเกษตรสุรินทร์ และปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ สาขาประมง
ประวัติการทำงานและผลงานที่น่ายกย่อง
นายนฤทธิ์ เป็นประชากรเขตตำบลโพธิไพศาลเป็นชนเผ่า “ ไทโส้ ”ซึ่งมีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองเมื่อเรียนจบทำงานกับบริษัทเอกชนด้านการเกษตรและเก็บออมเงินทุนไว้ประกอบอาชีพของตนเองในที่สุดได้ลาออกจากบริษัทและกลับมาใช้ชีวิตเป็นเกษตรกรเต็มตัวที่แผ่นดินเกิดบนดินลูกรังพื้นที 31 ไร่ ซึ่งได้มาจากหยาดเหงื่อแรงงานของตนเองและคู่ชีวิต
นายนฤทธิ์ได้พยายามนำความรู้กลับมาพัฒนาบ้านเกิดเพื่อปรับเปลี่ยนความเชื่อที่บอกกันตลอดมาว่า “ดินลูกรัง”ปลูกอะไรก็ไม่ได้ต้นไม้ไม่โตจากสภาพพื้นดินที่เป็นดินลูกรังซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำขาดน้ำในฤดูแล้งการทำการเกษตรจึงต้องมีข้อมูลและมีความอดทนมากพอสมควรในปี2532
นายนฤทธิ์ได้เริ่มต้นศึกษาการปลูกพืชตามหลักวิชาการอย่างจริงจังโดยศึกษาปริมาณน้ำฝน พันธุ์พืช หลักการปรับปรุงบำรุงดินศึกษา การทำการเกษตรแบบธรรมชาติและภูมิปัญญาท้องถิ่นศึกษาดูงานสวนเกษตรที่ประสบความสำเร็จทั่วประเทศ ในปี 2535 ได้เริ่มทดลองปลูกพืช ชนิดละ 2-3 ต้นเพื่อศึกษาการเจริญเติบโตและปัญหาของพืชชนิดนั้นๆขณะเดียวกันได้ปลูกพืชเป็นแนวกันลมคือปลูกไม้สักรอบพื้นที่จากการศึกษาและรวบรวมข้อมูลมาตลอด 5 ปี จนมีความมั่นใจปี 2537 จึงเริ่มลงมือปลูกพืช โดยใช้หลักวิชาการผสมผสานกับภูมิปัญญาท้องถิ่นแบ่งพื้นที่การเกษตร เป็นพื้นที่ปลูกพืชและปศุสัตว์ 20 ไร่, บ่อเลี้ยงปลา 9 ไร่, ป่าอนุรักษ์ 4 ไร่ประเภทของพืชที่ปลูก แบ่งเป็น
1. ผักอายุสั้น: พริก แตงไทย ฟักทอง บวบ
2. พืชอายุสั้น: กล้วย มะละกอ ฝรั่ง
3. ผลไม้: กระท้อน ขนุน มะม่วง มะขาม มะพร้าวน้ำหอม ลำไย มะกอกน้ำ
4. ไม้เศรษฐกิจ: สัก พยุง ชิงชัน ประดู่แดง มะค่าโมง
5. พืชทดลอง: ผักหวานป่า
6. ป่าอนุรักษ์
สัตว์ที่เลี้ยงได้แก่ วัวขุน วัวฝูง เป็ด ไก่ แพะ แกะ บ่อเลี้ยงปลา จำนวน 3 บ่อ
นายนฤทธิ์ เป็นเกษตรกรที่สามารถจัดการกับปัญหาด้านเศรษฐกิจสังคม และสิ่งแวดล้อมได้อย่างเหมาะสม คือ
ด้านเศรษฐกิจ จัดการให้ได้ผลตอบแทนจากผลิตผลทุกฤดูกาลหมุนเวียน
อย่างเพียงพอตลอดปีปัจจุบันนายนฤทธิ์ มีรายได้เฉลี่ยเดือนละ ๒๐๐,๐๐๐ บาท
ด้านสังคม แก้ไขการลักขโมยด้วยการพยายามพบปะผู้คนในชุมชนทำกิจกรรมร่วมกับชุมชน
เป็นผู้นำด้านต่างๆหลายด้านแบ่งปันผลผลิตให้กับวัด โรงเรียนศูนย์เด็กช่วยเหลือคนจนและผู้ติดเลิกยาเสพติดโดยการรับเข้าทำงานในฟาร์มจนในที่สุดปัญหาการลักขโมยได้หมดลง
ด้านสิ่งแวดล้อม เป็นเกษตรกรที่ตะหนักถึงปัญหาระบบนิเวศน์และเข้าใจดีว่าป่าและธรรมชาติจะต้องถูกทำลายมากขึ้นในอนาคตได้แบ่งพื้นที่เป็นป่าอนุรักษ์เพื่อให้สัตว์และแมลงได้อาศัยพร้อมทั้งปลูกป่าเพิ่มเติมนับว่า นายนฤทธิ์ เป็นผู้มีความอดทน ขยันและไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคหมั่นศึกษาหาความรู้เพื่อพัฒนาอาชีพของตนขณะเดียวกันก็เอื้อเฟื้อต่อส่วนรวมและเป็นแบบอย่างให้เยาวชนเกษตรกรทั่วไปมาเรียนรู้แนวคิดปฏิบัติ จนได้รับคัดเลือก เป็น
-เกษตรกรผู้ประกอบอาชีพดีเด่น สาขาไร่นาสวนผสมในปี ๒๕๔๘ จากสนง.เกษตรจังหวัดสกลนคร
-คนดีศรีเมืองสกลประจำปี๒๕๔๗ จากจังหวัดสกลนคร
-คนดีเมืองสกล เชิงประจักษ์ ประจำปี ๒๕๔๘ จากชมรมส่งเสริมคนดีเมืองสกล
จึงนับได้ว่า คุณนฤทธ์ คำธิศรี คือแบบอย่างความ "พอเพียง" อย่างแท้จริง
เราชอบผู้นำทางวิชาการในประเด็นอะไร
ถึงเขาจะเป็นลูกชาวไทโส้ ในเขตอำเภอที่ยากจนเขาก็มีแนวคิดที่ดีรู้จักใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ได้ คือ ทำเกษตรจะไม่จน หากรู้จักวางแผน และการเกิดเป็นคนจะต้องมีความขยัน อดกลั้น อดทน เพื่อที่จะรอผลผลิต มีความซื่อสัตย์ และจงตระหนักไว้เลยว่างานหนักไม่เคยฆ่าคน และเกิดเป็นคนต้องรู้จักคิด รู้วางแผน เพราะการคิดการวางแผนจะนำไปสู่ความสำเร็จในอนาคตข้างหน้า
เรียกได้ว่า นาย"นฤทธิ์ คำธิศรี" ประสบความสำเร็จในชีวิตแบบที่เขาต้องการ คือไม่ต้องรวยเงินทอง เพราะการมีเงินมากๆ ไม่ได้หมายว่าจะทำให้เรามีความสุข ความสุขแท้จริงของชีวิตก็ คือ ความมีอิสระในด้านความคิดและการกระทำ และทำงานอย่างมีความสุข โดยมี คติประจำใจว่า เพิ่มผลผลิตแบบคนไต้หวัน ขยันแบบคนเกาหลี สู้ไม่หนีแบบคนอิสราเอล หนักแน่นในใจแบบญี่ปุ่น ทดแทนแผ่นดินเหมือนคนไทย
ที่มา:
http://www.yclsakhon.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&Category=yclsakhoncom&thispage=3&No=270837
เรียกได้ว่า นาย"นฤทธิ์ คำธิศรี" ประสบความสำเร็จในชีวิตแบบที่เขาต้องการ คือไม่ต้องรวยเงินทอง เพราะการมีเงินมากๆ ไม่ได้หมายว่าจะทำให้เรามีความสุข ความสุขแท้จริงของชีวิตก็ คือ ความมีอิสระในด้านความคิดและการกระทำ และทำงานอย่างมีความสุข โดยมี คติประจำใจว่า เพิ่มผลผลิตแบบคนไต้หวัน ขยันแบบคนเกาหลี สู้ไม่หนีแบบคนอิสราเอล หนักแน่นในใจแบบญี่ปุ่น ทดแทนแผ่นดินเหมือนคนไทย
ที่มา:
http://www.yclsakhon.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&Category=yclsakhoncom&thispage=3&No=270837